‘คลื่นเสียงบำบัด’ อีกศาสตร์แห่งการผ่อนคลาย

คลื่นเสียงบำบัด

                สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน บทความที่ผ่าน ๆ มาเราคุยกันไปถึงเรื่องหนัก ๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นภาวะหมดไฟหรือโรคซึมเศร้า แน่นอนว่าสถานการณ์โควิดในปัจจุบันมีแนวโน้มคลี่คลายลงกว่าสองเดือนก่อนค่อนข้างมาก ช่วงนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นช่วงแรก ๆ หลังจากผ่านพ้นจุดสูงสุดของยอดผู้ติดเชื้อ แต่ว่าความเครียดสะสมของประชาชนก็ดูว่าจะไม่ได้คลายลงมากเท่าไหร่ ไหนจะเรื่องสถานการณ์น้ำท่วมอีก ทำให้หลาย ๆ คนต้องใช้ชีวิตกันอย่างยากลำบาก

                ซึ่งการผ่อนคลายจากความเครียดนั้นทำได้หลายวิธีด้วยกัน แม้ว่าเพิ่งปลดล็อคดาวน์ได้ไม่กี่วัน แต่ครั้นว่าจะให้ออกไปทำกิจกรรมนอกสถานที่หรือออกไปเดินเที่ยวเล่นเหมือนอย่างเคยอาจจะดูเป็นเรื่องอันตรายไปเสียหน่อย ดังนั้นในบทความนี้เราจึงจะมาแนะนำวีธีการผ่อนคลายง่าย ๆ ขอเพียงแค่คุณมีสมาร์ทโฟนและหูฟังที่พอใช้ได้ในระดับหนึ่งเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

                วิธีที่จะมาแนะนำกันในบทนี้ได้นำมาจากส่วนหนึ่งของบทความ WAYS TO COPE WITH DEPRESSION ในส่วนของ คลื่นเสียงบำบัด จากนิตสารชีวจิต ฉบับที่ 550 ครับ ต้องขอขอบพระคุณชีวจิตมา ณ ที่นี้ด้วย

บางท่านอาจจะถามว่า แล้วจะหาฟังได้ช่องทางไหน ? ต้องเสียเงินหรือเปล่า?  วันนี้ทางสมุนไพรไผ่เงินก็มีตัวอย่าง Playlist ดี ๆ จาก SPOTIFY มาแนะนำเช่นกันครับ จะมี Playlist อะไรบ้าง ไปอ่านต่อกันเลย !         

คลื่นเสียงบำบัด คืออะไร ?

คลื่นเสียงบำบัด1

[1] นายแพทย์แอนดรูว์ กอนซาเลซ (Dr. Andrew Gonzalez) ศัลยแพทย์และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน อธิบายเรื่องคลื่นเสียงบำบัด (Binaural Beats) ไว้ว่าเป็นเทคนิคในการรวมความถี่เสียงของเสียง 2 ความถี่ที่แตกต่างกันเล็กน้อย เพื่อให้สมองสร้างโทนเสียงความถี่ใหม่ เช่น หากหูซ้ายของคุณได้รับเสียง 300 เฮิร์ต และหูขวาของคุณได้รับความถี่ 280 เฮิร์ต สมองของคุณจะประมวลผลและสร้างคลื่นเสียงความถี่ใหม่ขึ้นมา ซึ่งเป็นคลื่นที่คุณไม่ได้ยินจริง ๆ แต่ส่งผลกระทบกับสมองของคุณ

การใช้ คลื่นเสียงบำบัด มีประโยชน์อะไรบ้าง ?

                จากการศึกษาพบว่า คลื่นเสียงบำบัดนั้นกระตุ้นให้เกิดสภาวะทางจิตเช่นเดียวกับการฝึกสมาธิ ซึ่งมีประโยชน์ดังนี้

  • ลดความวิตกกังวล
  • เพิ่มสมาธิและแรงจูงใจ
  • ลดความเครียด
  • เพิ่มความมั่นใจ
  • ส่งเสริมอารมณ์เชิงบวก
  • ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
  • ช่วยจัดการกับความเจ็บปวด

              การทำสมาธิเป็นการฝึกจิตใจให้สงบและปรับจำนวนความคิดแบบสุ่มที่ผ่านเข้ามา การฝึกสมาธิเป็นประจำจะช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล ชะลออัตราการเสี่อมของสมองและสูญเสียความทรงจำ ส่งเสริมให้สุขภาพทางอารมณ์ และเพิ่มความสนใจให้มากขึ้น การฝึกสมาธิเป็นประจำอาจเป็นเรื่องยาก ดังนั้นผู้คนจึงมองหาเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้การฝึกสมาธิเป็นเรื่องง่ายขึ้น

               โดยคลื่นเสียงบำบัดที่เหมาะสมกับการทำสมาธิคือช่วงความถี่ระหว่าง 1 – 30 เฮิร์ต ซึ่งเป็นช่วงที่ทำให้สมองผลิตคลื่นอัลฟา เมื่อฟังเป็นประจำจึงสร้างประโยชน์มากมายดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น บางครั้งเราก็เรียกการบำบัดในลักษณะนีว่า “เทคโนโลยีคลื่นสมอง”

คลื่นเสียงบำบัด-2

ลองทดสอบคลื่นเสียงบำบัดกันหน่อยดีกว่า

[2] เพื่อให้คุณได้เข้าใจหลักการของคลื่นเสียงบำบัด หรือ Binaural Beats มากขึ้น ผมเลยจะขอนำการทดลองจากเว็บไซต์ www.binauralbeatsmeditation.com เกี่ยวกับการทดสอบคลื่นเสียงบำบัดด้วยวิธีการต่อไปนี้

  1. ใช้หูฟังของคุณให้พร้อม
  2. กดเล่นคลิปวีดิโอจาก Youtube ด้านล่าง
  3. เมื่อเริ่มเล่นไปได้ซักพัก ให้คุณลองถอดหูฟังออกหนึ่งข้าง ซ้ายหรือขวาก็ได้ หลังจากที่ถอดหูฟังออกแล้วให้ลองสังเกตเสียงความถี่ที่คุณได้ยินดูแล้วคุณจะพบว่าเสียงคลื่นความถี่ที่เคยได้ยินว่าเป็นเสียงสั่น” จะหายไป และตอนนี้เราจะได้ยินเพียงความถี่เดียวเท่านั้น
  4. คราวนี้เมื่อคุณนำหูฟังใส่กลับเข้าไปจะพบว่าเสียงสั่น ๆ เกิดขึ้นอีกแล้ว เนื่องจากความแตกต่างทางคณิตศาสตร์ระหว่างคลื่นที่มีความถี่ต่างกันจะทำให้สมองเราประมวลผลได้ความถี่ใหม่ขึ้นมานั่นเอง

  https://www.youtube.com/watch?v=BWYyGMuZSgc

เมื่อคลื่นเสียงต่างกัน ประโยชน์ก็ต่างเช่นกัน !

คลื่นเสียงบำบัด-3

              นักวิจัยแนะนำว่าคลื่นเสียงบำบัดควรมีความถี่น้อยกว่า 1000 เฮิร์ต และความแตกต่างระหว่างโทนเสียงทั้ง 2 ต้องไม่เกิน 30 เฮิร์ต โดยคุณสามารถหาคลื่นเสียงที่เหมาะสมได้จากหลายแหล่งไม่ว่าจะเป็น Youtube , Spotify หรือ Steaming music Application อื่น ๆ โดยคลื่นเสียงบำบัดแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่ต่างกันดังนี้

  • คลื่นบำบัดในช่วงเดลต้า (Delta wave) : มีความถี่ระหว่าง 1- 4 เฮิร์ต ช่วยในเรื่องการหลับสนิทและการพักผ่อน
  • คลื่นบำบัดในช่วงธีดา (Theta wave) : มีความถี่ระหว่าง 4 – 8 เฮิร์ต เพิ่มสมาธิและความคิดสร้างสรรค์
  • คลื่นบำบัดในช่วงอัลฟา (Alpha wave) : มีความถี่ระหว่าง 8 – 13 เฮิร์ต กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ส่งเสริมความรู้สึกเชิงบวกและลดความวิตกกังวล
  • คลื่นบำบัดในช่วงเบต้า (Beta wave) : มีความถี่ระหว่าง 14 – 30 เฮิร์ต เพิ่มสมาธิและความตื่นตัว รวมถึงการแก้ไขปัญหาและความจำที่ดีขึ้น

             วิธีกรารใช้คลื่นบำบัดที่ดีนั้นควรจะหาสถานที่ที่ทำให้เรารูสึกผ่อนคลาย ปราศจากเสียงรบกวน โดยให้เริ่มต้นจากการฟังให้ได้อย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้แน่ใจได้ว่าเสียงนั้นติดหูและถูกส่งไปทั่วสมอง

             แต่ทั้งนี้ระยะเวลาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่ามีความต้องการอย่างไรเช่นคุณอาจจะเป็นคนที่มีความเครียดสะสมมาก อาจจะต้องใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมง เพื่อให้คลื่นเสียงบำบัดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

             ข้อควรระวังคือ อย่าเปิดฟังเสียงดังจนเกินไป เพราะนอกจากจะทำลายระบบรับเสียงของเราแล้ว ยังไม่ได้ประโยชน์จากการบำบัดอีกด้วยนะครับ

              ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่าง Playlist จาก Application Spotify ซึ่งผมจะขอนำมาฝากทุกท่านก่อนจะจากกันไป แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่าไม่จำเป็นต้องเป็น Spotify ก็ได้ เพียงแค่เราลองนำคลื่นเสียงย่านต่าง ๆ ที่เราสนใจไปเซิร์จใน Youtube ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ไม่แตกต่างกัน

Alpha-wave
Theta-wave
Meditation

              แล้วพบกันใหม่บทความหน้านะครับ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่านไม่มากก็น้อยครับ สวัสดีครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก

[1] ชวลิดา เชียงกูล, Ways to cope with depression , นิตยสาร ชีวจิต ฉบับที่ 550  , Page 60

[2] How Binaural Beats Music Works ,Binaural Beats, Binaural Beats: How They Work & Benefits On Health (binauralbeatsmeditation.com)

แนะนำบทความสำหรับคุณ…

มารับมือกับ ‘อารมณ์ลบ’ กันดีกว่า

admin@Acover

See all author post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are makes.